วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

การขยายพันธุ์และการตัดแต่งกิ่ง


การขยายพันธุ์

 ในการขยายพันธุ์กุหลาบเราสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การตัดชำ  การติดตา การตอนกิ่ง และการเพาะเมล็ด  บางครั้งเพื่อให้ได้ต้นกุหลาบที่มีรากแข็งแรง และให้ผลผลิตสูงเกษตรกรมักนิยมกุหลาบพันธุ์ดีที่ติดตาบนตอกุหลาบป่า

การตอนกิ่ง

           วิธีนี้เป็นที่นิยมมาก เพราะทำได้ง่ายและเห็นผลเร็ว กิ่งที่เลือกต้องเป็นกิ่งที่สมบูรณ์ ไม่มีโรคหรือแมลงทำลาย  ไม่อ่อนหรือแก่เกินไป คือสีเปลือกเขียวเข้มจนถึงน้ำตาลอ่อน  เปลือกล่อนออกจากกิ่งได้ง่าย วิธีตอนที่นิยมทำคือ การตอนแบบหุ้มกิ่ง โดยใช้มีดคมๆ ควั่นเปลือกรอบกิ่ง
2 รอย ห่างกันประมาณ 2.5-3 ซม. ให้รอยควั่นด้านบนอยู่ใต้ตาเล็กน้อย  กรีดตามยาวและลอกเอาเปลือกออก แล้วใช้สันมีดขูดเมือก ออกให้หมด จากนั้นนำขุยมะพร้าวที่แช่น้ำจนอิ่มตัวหุ้มตรงรอยควั่น นำถุงพลาสติกมาหุ้มทับอีกที แล้วมัดด้วยเชือกที่หัวท้ายให้แน่น กิ่งตอนจะเริ่มออกรากในเวลา 2-3 สัปดาห์       
 


การติดตา

           นิยมติดตาพันธุ์ดีบนต้นตอกุหลาบป่า ได้แก่ Rosa multiflora หรือ R.indical (R. chinensis) ซึ่งมี ความแข็งแรงและทนทาน ก่อนทำการติดตาต้องเตรียมต้นตอและเลือกตาพันธุ์ดีที่จะนำมาติด ควรเลือกต้นกุหลาบป่าที่กำลังเจริญเติบโต เปลือกล่อนจากเนื้อ  ตาที่ใช้ควรเป็นตาจากกิ่งที่ดอกเริ่มเหี่ยวประมาณ ตาที่ 3-4 นับจากตาแรกที่อยู่ใกล้ดอกลงมาหรือเลือกจากกิ่งที่สมบูรณ์เต็มที่  โดยเลือกเอาตาที่นูนเด่นชัด วิธีการที่นิยมทำคือ การติดตาแบบตัวที (T-budding) โดยกรีดต้นตอตามทางยาวประมาณ 3-4 ซม. แล้วตัดขวางชิดกับรอยกรีดด้านบน ใช้มีดเผยอเปลือกตามรอยกรีดด้านบนออกทั้งสองข้าง จากนั้นใช้มีดเฉือนตาจากกิ่งพันธุ์ดีที่เตรียมไว้ให้เท่ากับแผลบนต้นตอ นำแผ่นตาสอดลงไปในแผลบนต้นตอ พันด้วยพลาสติกให้แน่น หลังจากติดตา 7-10 วัน ถ้าแผ่นตายังเป็นสีเขียวแสดงว่าการติดตาได้ผล การขยายพันธุ์ด้วยการติดตานี้ทำให้กุหลาบของเรามีดอกได้หลายสีในต้นเดียวกัน
 
การปักชำกิ่ง

           วัสดุปักชำ ได้แก่ ทรายหยาบผสมกับขี้เถ้าแกลบ ในปริมาณเท่าๆ กัน กิ่งที่จะใช้ปักชำควรเป็นกิ่งที่มีดอกเริ่มแย้ม  หรือกิ่งที่ดอกบานไปแล้วไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ ตัดให้มีความยาว 5-6 นิ้ว มีใบติด 3-5 ใบ ขึ้นไป ตัดแล้วนำไปจุ่มในน้ำก่อนนำไปปักชำ ช่วงเวลาในการตัดกิ่งควรเป็นตอนเช้าหรือตอนเย็น วิธีนี้นิยมใช้ขยายพันธุ์กุหลาบหนู     

การเพาะเมล็ด

       จะต้องให้เมล็ดผ่านอุณหภูมิต่ำชั่วระยะเวลาหนึ่งจึงจะงอก โดยธรรมชาติของกุหลาบจะติดเมล็ดในอากาศหนาวหรือเขตอบอุ่น  เมล็ดจึ่งไม่สามารถงอกได้ทันทีที่อุณหภูมิห้องปกติ เมื่อนำเมล็ดกุหลาบไปเพาะในภาชนะที่ใส่วัสดุเพาะ เช่น ขุยมะพร้าวที่ชื้นคลุมด้วยถุงพลาสติกแล้ว จะต้องนำไปเพาะในตู้เย็นประมาณ 3-4 สัปดาห์ จะมีจำนวนเมล็ดงอกประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ แล้วจึงนำออกมาไว้ข้างนอก เมื่อต้นกล้างอกหมด แล้วจึงย้ายลงกระถางหรือถุงชำ


การตัดแต่งกิ่่ง

               หลังจากปลูกกุหลาบได้ระยะหนึ่งจำเป็นต้องมีการตัดแต่งกิ่ง มิฉะนั้นกุหลาบจะเจริญเติบโตอย่างไม่มีทิศทาง จะแตกกิ่งก้านมากเกินไปทำให้ดอกเล็ก ต้นหนาทึบดูแลยากและโรคและแมลงเข้าทำลายได้ง่าย

จุดประสงค์ในการตัดแต่งกิ่ง
             1 เพื่อปรับรูปทรงของพุ่มต้นให้ดีขึ้น ไม่ให้สูงหรือหนาจนเกินไป จะได้ง่ายในการดูแลรักษา
             2 เพื่อบังคับให้มีการแตกกิ่งจากส่วนต่างๆของต้นซึ่งมักเป็นกิ่งขนาดโตเรียกว่ากิ่งกระโดง ดอกที่เกิดจากกิ่งนี้จะมีขนาดโต
ภาพแสดงการเปรียบเทียบก่อนและหลังการตัดแต่ง
 
             3 เป็นการกำจัดโรคและแมลงที่มีอยู่ตามกิ่งให้หมดไป
               4 ช่วยในการแต่งดินในแปลงได้สะดวกขึ้น
 ฤดูในการแต่งกิ่ง ขึ้นอยู่กับสภาพดินฟ้าอากาศในแต่ละท้องที่ แต่นิยมทำตอนที่ตาเริ่มแตกยอดใหม่ ทำปีละ 2 ครั้ง ประมาณเดือน มิถุนายน และ เดือนพฤศจิกายนและอาจทำทุกระยะของช่วงการเจริญเติบโต

หลักในการตัดแต่งกิ่ง

              1 ตัดกิ่งแห้งตายออก เช่นกิ่งแห้งในพุ่มหรือกิ่งแขนง กิ่งที่มีสีดำหรือสีน้ำตาล
              2 ตัดกิ่งที่เป็นโรคหรือกิ่งที่แมลงทำลาย เช่นกิ่งหนามดำ กิ่งที่มีเพลี้ย ควรตัดออกให้หมดเพื่อไม่ให้กระจายไปกิ่งอื่นๆ
              3 ตัดกิ่งซักเกอร์ (suckers) ซึ่งเป็นกิ่งที่แตกออกมาจากต้นตอออกให้หมด ในกรณีที่กุหลาบนั้นได้จากการติดตา
              4 ตัดกิ่งล้มเอน กิ่งเกะกะ ที่ทำให้ไม่สะดวกในการดูแลรักษา
              5 ตัดกิ่งแก่ที่ไม่ต้องการออก
              6 ตัดกิ่งให้สั้นตามต้องการ มากน้อยขึ้นอยู่กับพันธุ์ สภาพดินและลักษณะอากาศในท้องที่ โดยแบ่งการตัดเป็น 3 ระดับคือ ตัดสั้นเพียงเล็กน้อยโดยตัด
 1 ใน 3ของความสูงเดิม  ตัดแต่งพอประมาณ ตัดส่วนบนทิ้งไปประมาณ 1 ใน 2  ตัดแต่งอย่างหนัก ตัดส่วนบนทิ้งไปประมาณ 2 ใน 3
              7 ตัดกิ่งไขว้ออก คือกิ่งที่เจริญในพุ่มรวมทั้งกิ่งที่ห้อยไปคลุมกิ่งอื่น
              8 การตัดควรทำมุม 45 องศา ควรตัดเหนือตาประมาณ 1/4 และให้ตาอยู่ทางด้านส่วนสูงของรอยเฉียง
              9 ทาขอบแผลรอยตัดกิ่งที่มีขนาดโตกว่าดินสอด้วยสีน้ำมันหรือปูนแดงเพื่อป้องกันการแห้งตายของปลายกิ่งที่เกิดจากการทำลายของหนอนเจาะต้นและเชื้อรา
 
การบำรุงหลังตัดแต่ง

            1 เก็บใบที่เหลือติดโคนต้นออกให้หมด ในกรณีที่ตัดแต่งกิ่งยังไม่แก่และต้องเหลือใบไว้เลี้ยงต้น ต้องเก็บใบที่เป็นโรคออกให้หมดเหลือไว้แต่ใบที่สมบูรณ์ ใบแห้งที่ร่วงหล่นต้องเก็บให้หมดเพื่อไม่ให้เป็นที่เพาะเชื้อโรค และเป็นที่หลบซ่อนของแมลง
            2 ทำความสะอาดแปลงและพรวนดิน ควรใส่ปุ๋ยกระดูกต้นละ 1-2 กำมือ และคลุมแปลงด้วยวัสดุคลุมดิน
            3 ใส่ปุ๋ยปลา โดยผสมน้ำอัตราส่วน 1 ช้อนโต๊ะ กับน้ำ 1 แกลลอน รดโคนต้น
            4 ใช้แมกนีเซียมซัลเฟต หรือดีเกลือโรยรอบต้นห่างจากโคคนต้น 1 ฟุต
            5 ฉีดยากันเชื้อราภายใน 24 ชั่วโมงให้ทั่วต้นและตลอดหน้าแปลง
            6 เมื่อกุหลาบเริ่มแตกใบใหม่ควรใส่ปุ๋ยสูตร 10-20-20 ทุกๆ 35 วัน แต่ไม่ควรเกิน 5-6 ครั้งต่อปี และเนื่องจากกุหลาบจะต้องการน้ำมากเป็นพิเศษ หลังการตัดแต่งจึงควรรดน้ำมากกว่าปกติ



                                                          








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น