วันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ขั้นตอนการปลูกดอกกุหลาบและดูแลกุหลาบ


 การเตรียมดิน

           สำหรับการปลูกในแปลงปลูก ดินควรเป็นดินที่ร่วนซุย ถ้าดินไม่ค่อยดีควรใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก เศษพืชต่างๆ เมื่อพรวนดินแล้วจึงขุดหลุมปลูกอาจปลูกเป็นหลุมละต้น  หลุมกว้างยาวลึก 50-75 ซ.ม.โดยขุดแบ่งดินเป็น 2 ระดับ ขุดลงไป 30 ซ.ม.แรก    ควรกองดินไว้ทางหนึ่งเรียกว่าหน้าดิน    อีก 45 ซ.ม.หลัง กองแยกไว้อีกทางหนึ่งเรียกว่าดินก้นหลุม สำรับหน้าดินให้ตากให้แห้งสนิทประมาณ 6-10วัน ใช้กาบมะพร้าวหรืออิฐหักรองก้นหลุมเพื่อช่วยในการระบายน้ำ  นำปุ๋ยคอกและขุยมะพร้าวผสมโดยใช้ดิน 1 ส่วน ปุ๋ยคอก 1ส่วน ขุยมะพร้าว  1 ส่วน ในส่วนผสม  ลบ.เมตรเติมปุ๋ยสูตร  5-10-5   ซุปเปอร์ฟอสเฟสหรือกระดูกป่น  1 กก. คลุกเคล้าให้เข้ากันดี นำไปใส่ในหลุมจนเต็ม จากนั้นรอดินยุบตัวดีจึงลงมือปลูก   ปุ๋ยคอกเป็นปุ๋ยที่หาง่ายและสามารถย่อยได้ดีใน   1-2 เดือน ยิ่งถ้าเป็นมูลวัวจะทำให้กุหลาบใช้ประโยชน์จากปุ๋ยได้มากสุดเนื่องจากมูลวัวช่วยให้การเจริญเติบโตของรากกุหลาบดีขึ้น ส่วนกระดูกป่นเป็นปุ๋ยที่ให้ฟอสฟอรัสสูงและสลายตัวช้า ทำให้ต้นกุหลาบไม่โทรมเร็ว 
              ส่วนการเตรียมดินปลูกในภาชนะ ต้องปรับปรุงดินให้ร่วนซุยมากๆ เพราะหลังจากปลูกไปแล้ว จะปรับปรุงดินได้ยากกว่าในแปลง ถ้าดินไม่ร่วนซุยพอ จะทำให้ดินจับตัวเป็นก้อนและทำให้ระบายน้ำไม่ได้ เมื่อรดน้ำน้ำจะขังและทำให้กุหลาบเหี่ยวและตายได้   นอกจากนี้การปลูกในภาชนะดินต้องมีธาตุอาหารเพียงพอ ดังนั้นจึงนิยมใช้ดินผสมที่มีขายตามท้องตลาดหรืออาจผสมเองก็ได้ โดยใช้ดินร่วนหรือดินทรายผสมกับปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก เศษวัสดุต่างๆ จนดินมีสภาพเหมาะสมกับการปลูก

   สำหรับการปลูกเพื่อเป็นไม้ประดับสถานที่หรือสวนหย่อม ควรเตรียมหลุมปลูกหรือและปรับปรุงดินไว้ล่วงหน้าและคำนึงถึงการระบายน้ำ โดยอาจยกระดับดินบริเวณหลุมปลูกให้สูงกว่าระดับสนามเล็กน้อย เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังโคนต้น



การดูแลรักษา

การให้น้ำ

ให้น้ำระบบน้ำหยด หรือใช้หัวพ่นน้ำระหว่างแถวปลูก อัตรา 6-7 ลิตร/ตร.ม./ วัน หรือ 49 ลิตร/ตร.ม./สัปดาห์ อาจให้ทุกวัน วันเว้นวัน หรือ 2-3 วันต่อครั้ง แล้วแต่สภาพการอุ้มน้ำของดิน อย่ารดน้ำให้ดินแฉะตลอดเวลา ควรให้ดินมีโอกาสระบายน้ำ และมีอากาศเข้าไปแทนที่บ้าง ดังนั้นใน 1 สัปดาห์ หากปลูกในโรงเรือนจะต้องใช้น้ำประมาณ 78,400 ลิตร หรือ 78.4 คิวบิคเมตร ต่อไร่ น้ำที่ใช้ควรมีคุณภาพดี      มี pH5.8-6.5

การให้ปุ๋ยก่อนปลูก

ปุ๋ยก่อนปลูก คือ ปุ๋ยที่ผสมกับเครื่องปลูกก่อนการปลูกพืช ซึ่งให้ประโยชน์ 2 ประการคือ

1.      ให้ธาตุอาหารที่พืชต้องการอย่างเพียงพอตั้งแต่เริ่มปลูก
2.      ให้ธาตุอาหารบางชนิดในปริมาณมากและเพียงพอสำหรับการปลูกพืชตลอดฤดูซึ่งทำให้สามารถงดหรือลดการให้ปุ๋ยนั้น ๆ ได้
ระหว่างการปลูกพืชการให้ธาตุอาหารทุกชนิดแก่พืชในขณะปลูก ทำได้ลำบากเนื่องจากมีถึง 14 ธาตุ ธาตุบางชนิดจะมีอยู่ในดินอยู่แล้ว บางชนิดต้องให้เพิ่มเติม หากเป็นไปได้ควรส่งดินไปตรวจเพื่อรับคำแนะนำว่าควรปรับปรุงดินได้อย่างไร ซึ่งตัวอย่างสามารถส่งไปตรวจที่กองเกษตรเคมี กรมวิชาการเกษตร กรุงเทพฯ

การให้ปุ๋ยระหว่างปลูก

ปริมาณ และสัดส่วนของธาตุอาหาร การให้ปุ๋ยระหว่างปลูกพืช เนื่องจากธาตุอาหารส่วนใหญ่จะมีอยู่ในดินแล้วเมื่อปลูกพืชจึงยังคงเหลือธาตุ ไนโตรเจน และโปแทสเซียม ซึ่งจะถูกชะล้างได้ง่าย ดังนั้นจึงต้องให้ปุ๋ย ทั้งสองในระหว่างที่พืชเจริญเติบโต ซึ่งการให้ปุ๋ยอาจทำได้โดยการให้พร้อมกับการให้น้ำ (fertigation)
การให้ปุ๋ยพร้อมกับน้ำสำหรับกุหลาบ หากให้ทุกวันจะให้ในอัตราความเข้มข้นของไนโตรเจน 160 มก./ลิตร (ppm) และหากให้ปุ๋ยทุกสัปดาห์ควรให้ในอัตราความเข้มข้นของไนโตรเจน 480 มก./ลิตร
สัดส่วนของไนโตรเจน (N) ฟอสฟอรัส (P2O) และโปแตสเซียม (K2O) สำหรับกุหลาบในระยะต่าง ๆ คือ
1.      ระยะสร้างทรงพุ่ม สัดส่วน 1 : 0.58 : 0.83
2.      ระยะให้ดอก สัดส่วน 1 : 0.5 : 0.78
3.      ระยะตัดแต่งกิ่ง สัดส่วน 1: 0.8 : 0.9
    การดูแลกุหลาบระยะแรกหลังปลูก เมื่อตากุหลาบเริ่มแตก ควรส่งเสริมให้มีการเจริญทางใบ เพื่อการสะสมอาหาร และสร้างกิ่งกระโดง เพื่อให้ได้ดอกที่มีขนาดใหญ่ และก้านยาว ซึ่งทำได้ด้วยการเด็ดยอดเป็นระยะเวลาประมาณ 2-3 เดือน โดยเด็ดส่วนเหนือใบสมบูรณ์ (5 ใบย่อย) ใบที่สองจากยอด เมื่อดอกมีขนาดเท่าเมล็ดถั่วลันเตา จากนั้นกิ่งกระโดงจะเริ่มแทงออก ซึ่งกิ่งกระโดงนี้จะเป็นโครงสร้างหลักให้ต้นกุหลาบ ที่ให้ดอกมีคุณภาพดี
    การตัดแต่งกิ่ง การตัดแต่งกิ่งกุหลาบปฏิบัติได้หลายวิธี แต่ละวิธีจะใช้หลักการที่คล้ายกัน คือตัดแต่งเพื่อให้ได้กิ่งที่สมบูรณ์เพื่อการตัดดอก และเพื่อให้ได้กิ่งกระโดง (water sprout หรือ bottom break) มากขึ้น และจะรักษาใบไว้กับต้นให้มากที่สุด เพื่อให้ได้กิ่งที่สมบูรณ์ที่สุด ควรรักษาให้พุ่มกุหลาบโปร่ง และไม่สูงมากเกินไปนัก เพื่อสะดวกต่อการดูแลรักษา และแสงที่กระทบโคนต้นกุหลาบจะช่วยกระตุ้นให้เกิดกิ่งกระโดงอีกด้วย การตัดแต่งกิ่งที่นิยมในปัจจุบันได้แก่ การตัดแต่งกิ่งแบบ ตัดสูงและต่ำ

    การตัดแต่งแบบตัดสูงและต่ำ (สูงแและต่ำจากจุดกำเนิดของกิ่งสุดท้าย) เป็นการตัดแต่งเพื่อให้มีการผลิตดอกสม่ำเสมอทั้งปี



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น